นายทะเบียนมีสิทธิกำหนดให้ผู้สมัครจดทะเบียนหรือผู้ถือครองฯ แจ้ง หรือนำส่งข้อมูล หรือเอกสารหลักฐาน (รูปแบบ อิเล็กทรอนิกส์) ประกอบการสมัครขอจดทะเบียนชื่อโดเมน และการจัดการชื่อโดเมนที่จดทะเบียนแล้ว

• เอกสารหลักฐานประกอบคำขอจดทะเบียนชื่อโดเมน 

  • • เอกสารหลักฐานแสดงตัวตนของผู้ถือครองชื่อโดเมน

    • เอกสารหลักฐานอ้างอิงสิทธิในการใช้ชื่อโดเมน ตามข้อกำหนดแต่ละหมวดหมู่โดเมน

    • เอกสารหลักฐานการชำระเงิน 

• เอกสารหลักฐานประกอบคำขอจัดการชื่อโดเมนที่จดทะเบียนแล้ว 

  • • เอกสารหลักฐานรับรองให้นายทะเบียนดำเนินการเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อมูลสำคัญของชื่อโดเมน (ย้ายผู้ดูแลชื่อโดเมน, เปลี่ยนตัวแทนผู้รับมอบอำนาจ หรือโอนสิทธิผู้ถือครอง)

    • เอกสารหลักฐานรับรองให้นายทะเบียนดำเนินการลบชื่อโดเมน

นายทะเบียนต้องเก็บรวบรวมข้อมูลผู้ถือครองชื่อโดเมนและผู้ติดต่อด้านต่าง ๆ ตามข้อกำหนดของผู้ดูแลระบบทะเบียน ชื่อโดเมน โดยข้อมูลเหล่านี้จะถูกบันทึกเป็น WHOIS Database และผู้ถือครองฯ ต้องสามารถยืนยันตัวตนและสิทธิ ในชื่อโดเมนตามหมวดหมู่ที่ขอจดทะเบียนได้

• ข้อมูลผู้ถือครองชื่อโดเมน 

  • • การกำหนดชื่อผู้ถือครองฯ ที่ระบุไว้ในแบบฟอร์มคำขอจดทะเบียนชื่อโดเมนต้องเป็นชื่อเต็มตามกฎหมาย อย่างสมบูรณ์ 

    • ข้อกำหนดเพิ่มเติมนอกเหนือจากชื่อผู้ถือครองฯ ประกอบด้วย ที่อยู่ไปรษณีย์ หมายเลขโทรศัพท์ และที่อยู่อีเมลที่ติดต่อได้

    • ที่อยู่อีเมลที่ระบุในแบบฟอร์มคำขอฯ เป็นช่องทางการสื่อสารหลักอย่างเป็นทางการระหว่างนายทะเบียน และผู้ถือครองชื่อโดเมน หากผู้ถือครองฯ ไม่สามารถเข้าถึงอีเมลติดต่อที่ระบุไว้ ชื่อโดเมนอาจถูกย้าย จากผู้ดูแลชื่อโดเมน/ผู้แทนหนึ่งไปยังอีกผู้หนึ่ง หรือแม้กระทั่งชื่อโดเมนถูกใช้งานโดยผู้อื่น หรือถูกลบ ออกจากระบบโดยไม่มีการรับทราบจากผู้ถือครองฯ 

    • ข้อมูลผู้ถือครองฯ ที่ไม่สมบูรณ์ หรือละเมิดสิทธิของผู้อื่นอาจถูกแก้ไขตามดุลพินิจที่นายทะเบียน เห็นสมควรหรือชื่อโดเมนอาจถูกลบตามข้อตกลงการให้บริการ เนื่องจากถือเป็นการฝ่าฝืนข้อตกลง การใช้บริการอย่างชัดแจ้ง

    • โดยการยืนยันส่งแบบฟอร์มคำขอฯ ผู้ถือครองฯ ยินยอมให้นายทะเบียนเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับชื่อโดเมน ผู้ถือครองฯ และบุคคลที่เป็นผู้ติดต่อด้านต่าง ๆ ผ่านระบบ WHOIS ตามข้อตกลงการให้บริการ 

    • ผู้ถือครองฯ มีหน้าที่ในการรับผิดชอบให้แน่ใจว่าชื่อโดเมนไม่ละเมิดกฎหมาย หรือความสงบเรียบร้อย หรือศีลธรรมทางสังคม ในกรณีที่ข้อตกลงการให้บริการถูกฝ่าฝืน หน่วยงานที่มีอำนาจในการดำเนินการ สอบสวนจะขอข้อมูลเกี่ยวกับผู้ถือครองฯ ของชื่อโดเมนที่มีปัญหาจากนายทะเบียน หรืออาจตรวจสอบ ข้อมูลดังกล่าวผ่านทางบริการ WHOIS ด้วยตนเอง หากนายทะเบียน, ผู้ให้บริการโฮสติ้ง/เว็บเพจ หรือบุคคลที่สาม ถูกกำหนดให้เป็นผู้ถือครองฯ บุคคลนั้นต้องตระหนักและยอมรับภาระผูกพันที่เกี่ยวกับ ผู้ถือครองฯ นั้นด้วย 

• การยืนยันตัวตนของผู้ถือครองชื่อโดเมน 

  • • ผู้ถือครองฯ ต้องสามารถยืนยันตัวตนว่ามีสัญชาติไทย หรือจดทะเบียนมีที่ตั้ง หรือที่อยู่ในประเทศไทย หากไม่มี สามารถแต่งตั้งตัวแทนที่มีคุณสมบัติเพื่อให้ถือครองชื่อโดเมนในนามของผู้ถือครองฯ ได้  

    • นายทะเบียนยอมรับการยืนยันตัวตนผู้ถือครองฯ ด้วยข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ที่น่าเชื่อถือที่ได้รับแจ้งจากผู้ถือครองฯ หรือตัวแทน

    • นายทะเบียนอนุญาตให้ยืนยันตัวตนผู้ถือครองฯ ได้ภายใน 30 วัน นับจากวันที่ส่งคำขอจดทะเบียน หากพ้นกำหนดแล้ว สมาชิกจะต้องส่งคำขออีกครั้ง

• การยืนยันสิทธิในชื่อโดเมนของผู้ถือครอง

• ผู้ถือครองชื่อโดเมนองค์กร หรือชื่อโดเมนเครื่องหมายการค้า หรือชื่อโดเมนหน่วยงานย่อย/บริการ/กิจกรรม/ โครงการ จะต้องแสดงหลักฐานอ้างอิงสิทธิในการใช้ชื่อโดเมนที่ต้องการจดทะเบียน  

• ผู้ถือครองชื่อโดเมนอื่น ๆ ในหมวดหมู่ .in.th  และชื่อโดเมนภาษาไทย (IDN) ภายใต้รหัส .th ได้รับยกเว้นการ แสดงหลักฐานอ้างอิงสิทธิในการใช้ชื่อโดเมน ทั้งนี้ การใช้ชื่อโดเมนต้องไม่เป็นการละเมิดสิทธิผู้อื่น

• การแต่งตั้งผู้ดูแลด้านบริหารชื่อโดเมนและผู้ติดต่อด้านต่าง ๆ

• • • นายทะเบียนและผู้ดูแลระบบทะเบียนมีหน้าที่จัดเก็บข้อมูลชื่อ-นามสกุล และข้อมูลติดต่อของผู้เกี่ยวข้อง ด้านต่าง ๆ ตามมาตรฐานระบบ Whois Data เพิ่มเติมจากข้อมูลผู้ถือครองฯ ซึ่งประกอบด้วย

      • • ผู้ดูแลชื่อโดเมน (Administrative Contact): ได้แก่ สมาชิกระบบจัดการทะเบียนชื่อโดเมนซึ่งจะ ทำหน้าที่บริหารจัดการชื่อโดเมนในระบบของนายทะเบียน เช่น ส่งคำขอจดทะเบียน ต่ออายุ กู้คืน หรือแก้ไขข้อมูล เป็นต้น และเป็นผู้รับการติดต่อสื่อสารจากนายทะเบียน

        • ผู้ติดต่อด้านเทคนิค (Technical Contact): ได้แก่ ผู้ที่ผู้ถือครองฯ แต่งตั้งให้ทำหน้าที่ประสาน ติดต่อกับนายทะเบียนด้านเทคนิคเกี่ยวกับการใช้งานชื่อโดเมน 

        • ผู้ติดต่อด้านการเงิน (Billing Contact): ได้แก่ ผู้ที่ผู้ถือครองฯ แต่งตั้งให้ทำหน้าที่ประสาน ติดต่อกับนายทะเบียนด้านการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมหรือค่าบริการ ตลอดจนการชำระเงินและ การส่งหลักฐานให้แก่นายทะเบียน และเป็นผู้รับใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ทางอีเมลจาก นายทะเบียน

    • ผู้ถือครองฯ  สามารถทำหน้าที่เป็นผู้ดูแลชื่อโดเมน ผู้ติดต่อด้านเทคนิค และผู้ติดต่อด้านการเงินด้วยตนเอง ทั้งหมดได้  หรืออาจแต่งตั้ง หรือมอบให้ตัวแทนดำเนินการแทนทั้งหมดหรือบางส่วนได้ เช่น แต่งตั้งตัวแทน องค์กร หรือตัวแทนจำหน่ายของนายทะเบียน หรือผู้ให้บริการจัดทำเว็บไซต์ เป็นต้น

    • ผู้ถือครองฯ และผู้ที่ได้รับแต่งตั้งด้านต่าง ๆ จะต้องมีความเข้าใจภาระหน้าที่ในการตรวจสอบและดำเนินการ ที่เกี่ยวข้องให้เสร็จสิ้นภายในระยะเวลาที่นายทะเบียนกำหนด (ถ้ามี) 

    • หากนายทะเบียนไม่สามารถติดต่อผู้ถือครองฯ​ และผู้ที่เกี่ยวข้องได้ และ/หรือ หากผู้ถือครองฯ​ หรือผู้แทน ที่ได้รับแต่งตั้ง ไม่สามารถตรวจสอบและตอบสนองกลับไปยังนายทะเบียนได้ภายในเวลาที่กำหนด อาจส่งผล ให้ชื่อโดเมนถูกระงับการใช้งานหรือถูกลบ

• การแต่งตั้งผู้แทนในการถือครองชื่อโดเมน

  • • ผู้มีสัญชาติอื่น นอกเหนือจากสัญชาติไทย สามารถแต่งตั้งตัวแทนผู้รับมอบอำนาจสัญชาติไทยให้เป็น ผู้ถือครองฯ ในนามของตนเองได้ โดยจะต้องมีการแต่งตั้งหรือมอบอำนาจเป็นลายลักษณ์อักษร และยืนยันตัวตนด้วยเอกสารรับรองเครื่องหมายการค้าหรือนิติบุคคลโดยเอกสารทั้งหมดต้องออกโดยหน่วยงานที่เชื่อถือได้ เช่น เอกสารที่รับรองโดยโนตารีพับบลิค (Notary Public) หรือเอกสารรับรองที่ออกโดยสถานทูตของ ประเทศที่ผู้ถือครองสัญชาตินั้นอาศัยอยู่ เป็นต้น และต้องลงลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ (e-Signature) ตาม พ.ร.บ ว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2544 (ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม) หรือใหม่กว่า

    • ตัวแทนผู้รับมอบอำนาจต้องเป็นบุคคลสัญชาติไทย หรือนิติบุคคลจดทะเบียนในประเทศไทย โดยที่ตัวแทน จะต้องยืนยันตัวตนได้ตามเงื่อนไขของนายทะเบียน 

      • • บุคคลธรรมดา ยืนยันตัวตนทางดิจิทัล (Digital ID) ด้วยระบบของหน่วยงานภาครัฐ และ/หรือ ภาคเอกชนของไทย เช่น ThaiD, NDID หรืออีเมล @คน.ไทย หรือวีธีอื่นที่นายทะเบียนจะแจ้ง เพิ่มเติมในอนาคต 

        • นิติบุคคล ยืนยันตัวตนด้วยหนังสือรับรองนิติบุคคล หรือ ทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภ.พ.20) โดยลงลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ (e-Signature) ตาม พ.ร.บ ว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2544 (ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม) หรือใหม่กว่า หรือยืนยันตัวตนทางดิจิทัล (Digital ID) ด้วยระบบของ หน่วยงานภาครัฐ และ/หรือ ภาคเอกชนของไทย เช่น ThaiD, NDID หรือวีธีอื่นที่นายทะเบียน จะแจ้งเพิ่มเติมในอนาคต

    • หากมีการเปลี่ยนแปลงตัวแทนผู้รับมอบอำนาจ ผู้ถือครองฯ จะต้องแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรพร้อมด้วย เอกสารแต่งตั้งหรือมอบอำนาจให้ตัวแทนผู้รับมอบอำนาจรายใหม่ให้แก่นายทะเบียน ที่ออกโดยหน่วยงาน ที่เชื่อถือได้ และต้องลงลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ (e-Signature) ตาม พ.ร.บ ว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2544 (ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม) หรือใหม่กว่า

สมาชิกสามารถส่งคำขอจดทะเบียนชื่อโดเมนได้โดยไม่จำกัดจำนวน แต่มีข้อจำกัดด้านระยะเวลาการจดทะเบียนดังเงื่อนไข ต่อไปนี้

• การจดทะเบียนชื่อโดเมนมากกว่า 1 ชื่อ 

  • • ผู้ถือครองฯ สามารถถือครองชื่อโดเมนได้มากกว่า 1 ชื่อ  โดยแต่ละชื่อจะต้องเป็นไปตามนโยบายการจดทะเบียนชื่อโดเมน ข้อตกลง และนโยบายต่าง ๆ ที่เผยแพร่โดยนายทะเบียน

    • นายทะเบียนมีสิทธิปฏิเสธการยื่นขอจดทะเบียนชื่อโดเมนเพิ่มเติมจากชื่อแรก   รวมถึงมีสิทธิยกเลิกการจดทะเบียนในภายหลัง หากพบว่าขัดต่อนโยบายการจดทะเบียนชื่อโดเมน

• ระยะเวลาการจดทะเบียนชื่อโดเมน 

  • • ระยะเวลาจดทะเบียนชื่อโดเมนเริ่มตั้งแต่ 1 ปี ถึง 10 ปี ซึ่งถือเป็นระยะเวลาของสัญญา 

    • ระยะเวลาของการจดทะเบียน (สัญญาเริ่มต้น) จะเริ่มขึ้นในวันที่จดทะเบียนชื่อโดเมน ระยะเวลาของการ ต่ออายุ (สัญญาถัดไป) แต่ละช่วงจะเริ่มในวันถัดจากวันหมดอายุ (วันที่สิ้นสุดระยะเวลาของสัญญา) ครั้งก่อน

    • ผู้ถือครองฯ สามารถต่ออายุการจดทะเบียนชื่อโดเมนได้สูงสุด (รวมระยะเวลาของสัญญาเดิมคงเหลือแล้ว) ไม่เกิน 10 ปี โดยไม่จำกัดจำนวนครั้งของการต่ออายุ 

    • ผู้ถือครองฯ จะต้องระบุระยะเวลาจดทะเบียนในแบบฟอร์มคำขอจดทะเบียนหรือคำขอต่ออายุ และยอมรับ ระยะเวลาจดทะเบียนที่อนุญาตโดยนายทะเบียน และยอมรับให้นายทะเบียนเผยแพร่ข้อมูลวันที่ จดทะเบียนและวันที่หมดอายุของชื่อโดเมนในระบบ WHOIS 

สมาชิกต้องเตรียมข้อมูลทางเทคนิคประกอบการจดทะเบียน ตลอดจนการใช้งานชื่อโดเมนที่จดทะเบียนแล้ว ดังนี้

• ข้อมูลเนมเซิร์ฟเวอร์

  • • ชื่อโดเมนที่จดทะเบียนแล้วจะสามารถใช้งานได้ก็ต่อเมื่อมีการตั้งค่าเนมเซิฟเวอร์ (Name Server หรือ NS) ขั้นต่ำ 2 ชื่อที่ไม่ซ้ำกัน เพื่อติดตั้งข้อมูลของชื่อโดเมน ดังนั้น ผู้ถือครองฯ ต้องตั้งค่าและบันทึกข้อมูล NS ในระบบจัดการชื่อโดเมนตลอดอายุการจดทะเบียนด้วย 

    • นายทะเบียนตั้งค่าเนมเซิฟเวอร์ (ns-inactive.thnic.co.th) ให้เป็นค่าตั้งต้น ซึ่งเป็นเนมเซิฟเวอร์ที่ ไม่มีอยู่จริงและไม่สามารถใช้งานเป็นเนมเซิฟเวอร์ได้ ผู้ถือครองฯ ต้องกำหนดเนมเซิฟเวอร์เอง หรือกำหนด จากผู้ให้บริการบุคคลที่สามได้ หากใช้เนมเซิร์ฟเวอร์ดังกล่าว ผู้ถือครองฯ ต้องตั้งค่าระเบียนทรัพยากร ผ่านผู้ให้บริการเนมเซิฟเวอร์ ก่อนที่จะใช้เนมเซิฟเวอร์ที่กำหนดเองบนชื่อโดเมน

• ข้อมูลการย้ายชื่อโดเมน

  • • ผู้ถือครองฯ สามารถขอย้ายชื่อโดเมนไปอยู่ภายใต้บัญชีของผู้ดูแลชื่อโดเมนรายใหม่ โดยอาจเป็นการย้าย ตัวแทนจำหน่ายฯ หรือย้ายข้อมูลไปยังบัญชีผู้ใช้ใหม่ได้ และสามารถย้ายข้อมูลทั้งหมด หรือบางส่วนได้

    • กรณีย้ายตัวแทนจำหน่ายฯ ต้องแจ้งข้อมูลและปฏิบัติตามเงื่อนไขต่อไปนี้

      • ต้องแจ้งบัญชีผู้ใช้ของตัวแทนจำหน่ายฯ รายเดิมและรายใหม่

      • ต้องแจ้งชื่อโดเมนที่ต้องการย้าย

      • ต้องต่ออายุชื่อโดเมนอย่างน้อย 1 ปี/ชื่อ แล้วจึงจะย้ายได้

      • หากตัวแทนจำหน่ายฯ รายเดิมไม่ได้เป็นผู้ดำเนินการขอย้าย ผู้ถือครองฯ ต้องแจ้งนายทะเบียน เป็นลายลักษณ์อักษร

    • กรณีย้ายไปยังบัญชีผู้ใช้ใหม่ ซึ่งอาจเป็นของผู้ดูแลชื่อโดเมนบุคคลเดิมหรือบุคคลอื่นก็ได้ ผู้ถือครองฯ หรือ ผู้ดูแลชื่อโดเมนปัจจุบัน ต้องแจ้งข้อมูลและปฏิบัติตามเงื่อนไขต่อไปนี้

      • ต้องแจ้งบัญชีผู้ใช้ของผู้ดูแลชื่อโดเมนรายเดิมและรายใหม่

      • ต้องแจ้งชื่อโดเมนที่ต้องการย้าย

      • หากผู้ดูแลชื่อโดเมนรายเดิมไม่ได้เป็นผู้ดำเนินการขอย้าย ผู้ถือครองฯ ต้องแจ้งนายทะเบียน เป็นลายลักษณ์อักษร

    • ชื่อโดเมนที่จะย้ายได้ต้องมีสถานะ Active

กระบวนการจดทะเบียนชื่อโดเมนรหัสประเทศไทย โดยปกติจะมีเจ้าหน้าที่รับจดทะเบียนชื่อโดเมนทำหน้าที่พิจารณาคัดกรอง และตัดสินอนุมัติหรือปฏิเสธคำขอสมัครจดทะเบียนชื่อโดเมนที่ได้รับผ่านระบบจัดการชื่อโดเมน นอกจากนี้ ยังมีการรับจด ทะเบียนในกรณีเฉพาะที่จะมีคณะกรรมการที่ได้รับแต่งตั้งโดยมูลนิธิฯ ทำหน้าที่พิจารณา และตัดสินคำขอสมัครจดทะเบียน ชื่อโดเมนด้วย 

• ผู้มีอำนาจพิจารณาตัดสินคำขอจดทะเบียนชื่อโดเมน

  • เจ้าหน้าที่รับจดทะเบียน/นายทะเบียน มีอำนาจพิจารณาตัดสินคำขอจดทะเบียนชื่อโดเมน ดังนี้

    • • • ชื่อโดเมนภาษาอังกฤษ ระดับที่ 3 รหัส .th 

        • ชื่อโดเมนภาษาไทย ระดับที่ 3 รหัส .ไทย

        • ชื่อโดเมนภาษาไทย ระดับที่ 2 รหัส .th 

        • ชื่อโดเมนภาษาไทย ระดับที่ 2 รหัส .ไทย

  • คณะกรรมการพิจารณาชื่อโดเมนระดับที่ 2 รหัส .th มีอำนาจพิจารณาตัดสินคำขอจดทะเบียนชื่อโดเมน ดังนี้

    • • • ชื่อโดเมนภาษาอังกฤษ ระดับที่ 2 รหัส .th 

        • ชื่อโดเมนภาษาไทย ระดับที่ 2 รหัส .ไทย

  • คณะกรรมการมูลนิธิฯ หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายแทน มีอำนาจพิจารณาตัดสินคำขอจดทะเบียนชื่อโดเมนอื่น ๆ นอกเหนือจากการระบุไว้ในนโยบายการจดทะเบียนชื่อโดเมน ฉบับปัจจุบัน

• การตัดสินคำขอจดทะเบียนชื่อโดเมน 

  • • ระบบจะตรวจสอบและคัดกรองข้อมูลคำขอสมัครจดทะเบียนในขั้นต้น

    • นายทะเบียนจะพิจารณาข้อมูลและเอกสารประกอบคำขอจดทะเบียนในขั้นต่อมา เพื่อตรวจสอบให้เป็นไป ตามนโยบายการจดทะเบียนชื่อโดเมน ดังนี้ 

      • • ตรวจสอบสิทธิในชื่อโดเมนของผู้ถือครองฯ​ โดยพิจารณาจากประเภทผู้มีสิทธิถือครองชื่อโดเมน และการตั้งชื่อโดเมนตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด

        • ตรวจสอบคุณสมบัติและยืนยันตัวตนของผู้ถือครองฯ ด้วยกระบวนการยืนยันพิสูจน์และยืนยัน ตัวตนทางดิจิทัล หรือการตรวจสอบข้อมูลจากเอกสารหลักฐานประกอบคำขอที่ได้รับกับ ฐานข้อมูลของหน่วยงานของรัฐหรือแหล่งอ้างอิงที่เชื่อถือได้

    • นายทะเบียนจะอนุมัติให้คำขอผ่านเกณฑ์มีสิทธิจดทะเบียนชื่อโดเมน สำหรับคำขอที่มีคุณสมบัติครบถ้วน 

    • นายทะเบียนจะปฏิเสธการขอจดทะเบียน สำหรับคำขอที่ขาดคุณสมบัติ

• การอนุมัติและการปฏิเสธคำขอจดทะเบียนชื่อโดเมน

  • นายทะเบียนจะดำเนินการจดทะเบียนชื่อโดเมนสำหรับคำขอที่ได้รับอนุมัติผ่านเกณฑ์ทันที หากตรวจสอบพบ การชำระค่าธรรมเนียมเรียบร้อยแล้ว หรือ

  • นายทะเบียนจะแจ้งผลพิจารณาคำขอให้สมาชิกที่ส่งคำขอทราบทางอีเมลของผู้ถือครองฯ, ผู้ดูแลชื่อโดเมน, และผู้ติดต่อด้านต่าง ๆ พร้อมกับใบแจ้งหนี้ให้ชำระค่าธรรมเนียมจดทะเบียน 

  • เมื่อจดทะเบียนชื่อโดเมนสำเร็จ นายทะเบียนจะอีเมลแจ้งผลไปยังอีเมลของผู้ถือครองฯ, ผู้ดูแลชื่อโดเมน, และผู้ติดต่อด้านต่าง ๆ

  • วันที่จดทะเบียนชื่อโดเมน คือ วันที่ชื่อโดเมนพร้อมใช้งานวันแรก 

  • วันหมดอายุจะอ้างอิงตามระยะเวลา (หน่วย: ปี) ที่ระบุในคำขอ 

  • สมาชิกมีสิทธิยกเลิกคำขอจดทะเบียนชื่อโดเมนที่อยู่ระหว่างกระบวนการพิจารณาของนายทะเบียนได้ เว้นแต่ คำขอที่ผ่านการอนุมัติและจดทะเบียนชื่อโดเมนสำเร็จแล้ว จะไม่ได้รับคืนเงินทุกกรณี

  • นายทะเบียนมีอำนาจปฏิเสธหรือยกเลิกคำขอเกี่ยวกับชื่อโดเมน อันเนื่องมาจากสาเหตุดังตัวอย่างต่อไปนี้

    • • ขัดต่อนโยบายการจดทะเบียนชื่อโดเมน

      • ข้อพิจารณาทางเทคนิคและการปฏิบัติการ

      • ชื่อโดเมนก่อความสับสนหลงผิดต่อสาธารณะ

      • ชื่อโดเมนละเมิดสิทธิของผู้อื่น

      • ขัดต่อความมั่นคงปลอดภัยของระบบอินเทอร์เน็ต หรือผลประโยชน์ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้อง

      • ขัดต่อกฎหมายไทย

  • นายทะเบียนมีอำนาจใช้ดุลพินิจแต่เพียงผู้เดียวในการปฏิเสธ หรือยกเลิกคำขอจดทะเบียนชื่อโดเมนที่ ขาดคุณสมบัติ รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงฐานที่กำหนดไว้ในนโยบายการจดทะเบียนชื่อโดเมน

  • นายทะเบียนไม่จำเป็นต้องให้เหตุผลใด ๆ สำหรับการปฏิเสธหรือยกเลิกดังกล่าวแก่ผู้ส่งคำขอ ทั้งนี้ หากได้รับคำร้องที่สมเหตุสมผลนายทะเบียนอาจใช้ดุลยพินิจในการแจ้งเหตุผล หรือฐานในการปฎิเสธ หรือ ยกเลิกได้

• ผู้ถือครองฯ ต้องรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียวในการปรับปรุงข้อมูลในระบบจัดการชื่อโดเมนสำหรับ การเปลี่ยนแปลงใด ๆ ในข้อมูลชื่อโดเมนเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น 

• นายทะเบียนอาจขอข้อมูลล่าสุดเป็นครั้งคราว หรืออาจขอตรวจสอบข้อมูลปัจจุบันที่เกี่ยวข้องกับ การจดทะเบียน หรือการใช้งานชื่อโดเมน โดยที่ผู้ถือครองฯ (หรือผู้ดูแลที่เกี่ยวข้อง) ต้องให้ข้อมูล หรือปรับปรุงข้อมูลในระบบจัดการชื่อโดเมนภายใน 7 วัน นับจากวันที่ได้รับแจ้งจากนายทะเบียน 

• นายทะเบียนสงวนสิทธิ์ในการยกเลิกชื่อโดเมนในภายหลังหากพบว่าข้อมูลชื่อโดเมนขัดกับนโยบาย

• ผู้ถือครองฯ ต้องรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียวในการต่ออายุชื่อโดเมน รวมถึงการกู้คืนชื่อโดเมน และชำระ ค่าธรรมเนียมและ/หรือค่าบริการที่เกี่ยวข้อง เพื่อคงสถานะการจดทะเบียนชื่อโดเมนไว้ตลอดระยะเวลา ที่ต้องการใช้งาน

• ผู้ถือครองฯ ที่ไม่สามารถดำเนินการต่ออายุชื่อโดเมนและชำระค่าธรรมเนียมในระยะเวลาที่นายทะเบียน กำหนด ต้องยอมรับการถูกระงับการใช้งานชั่วคราว ตลอดจนกระบวนการยกเลิกเพิกถอนสิทธิในการถือครอง หรือกระบวนการลบชื่อโดเมนโดยนายทะเบียน

• ผู้ถือครองฯ สามารถโอนสิทธิในการถือครองชื่อโดเมนไปยังผู้อื่นได้ตามเงื่อนไขการเปลี่ยนแปลงสิทธิในชื่อ หรือสิทธิในการใช้ชื่ออันชอบด้วยกฎหมาย หรือกรณีอื่น ๆ ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของนายทะเบียน

• สิทธิถือครองชื่อโดเมนสามารถโอนให้ผู้อื่นได้เป็นกรณี ๆ ไป ดังกรณีตัวอย่างต่อไปนี้

  • การเปลี่ยนแปลงสิทธิในเครื่องหมายการค้า 

  • การเปลี่ยนแปลงของนิติบุคคลทางกฎหมาย เช่น การควบรวมหรือการโอนกิจการทั้งหมดให้แก่กัน เป็นต้น

  • การเปลี่ยนตัวแทนผู้รับมอบอำนาจให้ถือครองชื่อโดเมน (กรณีตัวแทนของนิติบุคคลต่างประเทศ หรือเจ้าของเครื่องหมายการค้าต่างประเทศ)

  • กรณีบุคคลธรรมดาเสียชีวิต หรือมีคำสั่งศาลให้เป็นบุคคลสาบสูญ บุคคลไร้ความสามารถ หรือบุคคลเสมือนไร้ความสามารถ

  • กรณีอื่น ๆ ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของนายทะเบียนและฝ่ายกฎหมาย

• ผู้ถือครองฯ ที่ต้องการโอนสิทธิถือครองชื่อโดเมนให้กับผู้รับโอน จะต้องแจ้งคำร้องเป็นลายลักษณ์อักษร มายังนายทะเบียน พร้อมกับนำส่งเอกสารหลักฐานประกอบการขอโอนสิทธิและเอกสารหลักฐานที่แสดงถึง สิทธิของผู้รับโอน

• นายทะเบียนจะพิจารณาคำร้องและเอกสารหลักฐานที่ได้รับ โดยนายทะเบียนจะอนุมัติคำร้องให้โอนสิทธิ ในชื่อโดเมนได้เป็นกรณี ๆ ไป

• กระบวนการพิจาณาคำร้องอาจล่าช้าออกไปหรืออาจถูกปฏิเสธคำร้อง หากผู้โอน และ/หรือ ผู้รับโอน ไม่สามารถแสดงเอกสารหลักฐานให้นายทะเบียนได้ครบถ้วน หรือเป็นกรณีที่นายทะเบียนต้องพิจารณา ร่วมกับฝ่ายกฎหมาย

• • • ผู้ถือครองฯ​ ต้องไม่ละเมิดสิทธิของผู้อื่นในการยื่นขอจดทะเบียนชื่อโดเมน และต้องเป็นผู้รับผิดชอบ แต่เพียงผู้เดียวเมื่อเกิดกรณีละเมิดสิทธิของผู้อื่น หรือกรณีพิพาท หรือกรณีข้อขัดแย้งในสิทธิถือครองฯ หรือสิทธิในการใช้ชื่อโดเมน โดยผู้ถือครองฯ จะต้องป้องกันนายทะเบียนจากกระบวนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท และความเสียหายที่อาจขึ้น

    • ในกรณีที่ผู้ถือครองฯ เป็นคู่ความในการดำเนินการทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสิทธิในชื่อโดเมน ผู้ถือครองฯ จะต้องให้ความร่วมมือตามคำขอของนายทะเบียนในการแสดงสำเนาเอกสารที่เกี่ยวข้องที่ได้ยื่นต่อศาล

    • ผู้ถือครองฯ ต้องยอมรับการถูกระงับการใช้งานชื่อโดเมนชั่วคราวระหว่างกระบวนการระงับข้อพิพาท หรือ กระบวนการแก้ไขข้อขัดแย้ง โดยที่นายทะเบียนจะแจ้งให้ผู้ถือครองฯ ทราบล่วงหน้า

    • ผู้ถือครองฯ ต้องยอมรับการยกเลิกเพิกถอนการจดทะเบียนชื่อโดเมนหรือโอนสิทธิถือครองชื่อโดเมน เมื่อ ข้อพิพาทสิ้นสุด มีคำสั่งหรือคำพิพากษาถึงที่สุดของศาลไทย หรือโดยกระบวนการระงับข้อพิพาทอื่น ๆ โดยที่นายทะเบียนจะแจ้งให้ผู้ถือครองฯ ทราบล่วงหน้า  [แนวปฏิบัติการระงับข้อพิพาท]

• การจดทะเบียนชื่อโดเมนรหัส .th ในระดับที่ 2 / Second-Level Domain .th (SLD.th)

  • • SLD.th จัดเป็นชื่อโดเมนพรีเมี่ยม 

    • นายทะเบียนจะเปิดรับคำขอสมัครเป็นครั้งคราวตามประกาศของมูลนิธิฯ หรือเมื่อมีผู้ยื่นคำร้องขอ จดทะเบียนเป็นกรณี ๆ ไป 

    • ค่าธรรมเนียมจดทะเบียนและต่ออายุชื่อโดเมน SLD.th จะรับเป็นเงินบริจาค หรือเงินสนับสนุนที่มอบให้แก่ มูลนิธิศูนย์สารสนเทศเครือข่ายไทย เพื่อวัตถุประสงค์ในการดำเนินโครงการ และกิจกรรมเพื่อสังคม และสาธารณะประโยชน์ 

• การจดทะเบียนชื่อโดเมนรหัส .th ในระดับที่ 3 / Thrid-Level Domain .th (3LD.th) 

  • • 3LD.th จัดเป็นชื่อโดเมนทั่วไป 

    • นายทะเบียนเปิดรับคำขอสมัครโดยปกติ และมีอัตราค่าธรรมเนียมจดทะเบียนและต่ออายุในเกณฑ์ทั่วไป

นายทะเบียนให้สิทธิผู้ถือครองชื่อโดเมน .th ทั้งในระดับที่ 2 และ ระดับที่ 3 มีสิทธิจดทะเบียนชื่อโดเมนรหัส .ไทย โดยได้รับ ยกเว้นค่าธรรมเนียมแบบหนึ่งต่อหนึ่ง เพื่อส่งเสริมการใช้งานชื่อโดเมนภาษาท้องถิ่น

• ชื่อโดเมนภาษาไทย ประกอบด้วย

  • • • • ชื่อโดเมนระดับที่ 2 ภายใต้รหัส .th ที่เขียนด้วยอักขระภาษาไทย (Thai IDN.th) 

        • ชื่อโดเมนระดับที่ 2 ภายใต้รหัส .ไทย ที่เขียนด้วยอักขระภาษาไทย (Thai IDN.ไทย)

        • ชื่อโดเมนระดับที่ 3 ภายใต้หมวดหมู่โดเมน .ไทย ที่เขียนด้วยอักขระภาษาไทย (Thai IDN .ธุรกิจ.ไทย/.รัฐบาล.ไทย/.ศึกษา.ไทย/.องค์กร.ไทย/.ทหาร.ไทย/.เน็ต.ไทย) 

• Thai IDN.th จัดเป็นชื่อโดเมนพรีเมี่ยม ที่ผู้ถือครองชื่อโดเมนหมวดหมู่ .in.th มีสิทธิจดทะเบียนพ่วงได้แบบ หนึ่งต่อหนึ่ง

• Thai IDN.ไทย จัดเป็นชื่อโดเมนที่ได้รับยกเว้นค่าธรรมเนียม (แถมฟรี) ซึ่งเป็นสิทธิที่มอบให้แก่ผู้ถือครอง ชื่อโดเมน .th 

• การตั้งชื่อโดเมนภาษาไทยต้องสอดคล้องกับภาษาอังกฤษตามหลักเกณฑ์การตั้งชื่อโดเมนของนโยบายการจดทะเบียนชื่อโดเมน

• • • • นายทะเบียนมีบัญชีชื่อโดเมนสงวนที่ระบบจะปิดกั้นการส่งคำขอจดทะเบียนชื่อโดเมนสงวน 

      • นายทะเบียนอาจพิจารณานำชื่อโดเมนที่ได้รับจากคำขอเพิ่มในบัญชีชื่อโดเมนในภายหลังได้ หรืออาจ พิจารณาถอดชื่อโดเมนสงวนออกจากบัญชีชื่อโดเมนสงวนเมื่อผู้มีสิทธิในชื่อโดเมนร้องขอ และได้รับอนุมัติ [แนวปฏิบัติชื่อโดเมนสงวน]

      • ติดต่อสอบถามนายทะเบียนเกี่ยวกับผู้ที่มีสิทธิจดทะเบียนชื่อโดเมนสงวน หรือการขอจดทะเบียนชื่อโดเมน สงวนได้ทางอีเมล support@thnic.co.th

• การคัดกรองโดยระบบอัตโนมัติ

• ระบบจะคัดกรองการตั้งชื่อโดเมนที่ไม่สอดคล้องกับหลักเกณฑ์ขั้นต้นออก เช่น อักขระที่ไม่อนุญาต ความยาวของชื่อโดเมน ชื่อซ้ำกับชื่อโดเมนที่จดทะเบียนแล้ว เป็นต้น 

• ระบบจะปิดกั้นชื่อโดเมนสงวนไว้ก่อน

• ระบบจะแสดงข้อความแจ้งเตือนสาเหตุที่ชื่อโดเมนไม่ผ่านการคัดกรองให้สมาชิกทราบ

• ระบบจะไม่อนุญาตให้แก้ไขชื่อโดเมนและ/หรือชื่อผู้ถือครองฯ​ สำหรับคำขอที่ส่งสำเร็จแล้ว สมาชิกต้องยกเลิกคำขอเพื่อสร้างคำขอใหม่

• การตรวจสอบโดยเจ้าหน้าปฏิบัติงาน

• เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบชื่อโดเมนในคำขอเทียบกับข้อมูลหรือเอกสารหลักฐานแสดงสิทธิในชื่อที่ต้องการจดทะเบียนว่าเป็นไปตามหลักเกฑณ์การตั้งชื่อโดเมนแต่ละหมวดหมู่หรือไม่ 

• กรณีเอกสารหลักฐานไม่ครบถ้วนหรือการตั้งชื่อโดเมนไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ เจ้าหน้าที่จะแจ้งให้สมาชิก ทราบเพื่อแก้ไข หากไม่มีการแก้ไขภายใน 30 วัน คำขอจะหมดอายุ

• กรณีการตั้งชื่อโดเมนเอกสารหลักฐานครบถ้วนและการตั้งชื่อโดเมนถูกต้องตามหลักเกณฑ์การตั้งชื่อโดเมน เจ้าหน้าที่จะตัดสินให้คำขอ “ผ่าน” พร้อมกับแจ้งผลให้สมาชิกทราบเพื่อดำเนินการชำระค่าธรรมเนียม

• การตั้งชื่อโดเมนเอกสารหลักฐานไม่ครบถ้วน หรือ การตั้งชื่อโดเมนไม่ถูกต้องตามหลักเกณฑ์การตั้งชื่อ โดเมน เจ้าหน้าที่จะปฏิเสธคำขอ

• ชื่อองค์กร หมายรวมถึง ชื่อนิติบุคคล ชื่อสถานประกอบการ ชื่อหน่วยงานของรัฐ ชื่อสถานศึกษา ชื่อมูลนิธิ  หรือชื่ออื่น ๆ ที่ได้ขึ้นทะเบียนกับหน่วยงานของรัฐ

• การตั้งชื่อโดเมนตามชื่อองค์กร ต้องมีเอกสารหลักฐานแสดงถึงสิทธิในชื่อโดเมน

• ชื่อโดเมนที่ขอจดทะเบียนจะต้องเป็นชื่อเต็ม ชื่อย่อ หรือส่วนหนึ่งส่วนใดของชื่อองค์กร โดยต้องสามารถสื่อ ถึงองค์กรนั้นได้

• เครื่องหมายการค้า หมายรวมถึง เครื่องหมาย หรือสัญลักษณ์ หรือตราที่ใช้กับสินค้า หรือบริการซึ่ง เครื่องหมายได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า มี 4 ประเภท ดังต่อไปนี้ 

  1. 1. เครื่องหมายการค้า 

     2. เครื่องหมายบริการ

     3. เครื่องหมายรับรอง

     4. เครื่องหมายร่วม

• การตั้งชื่อโดเมนตามชื่อเครื่องหมายการค้า ต้องมีเอกสารหลักฐานแสดงถึงสิทธิในชื่อโดเมน

• ชื่อโดเมนที่ขอจดทะเบียนจะต้องตรงกับชื่อเครื่องหมายการค้าที่จดทะเบียนทุกประการในทุกอักขระ โดยที่ อนุญาตให้ใช้คำอ่านที่ระบุในหนังสือจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า หรือคำขอจดทะเบียนเครื่องหมาย การค้า หรือคำอ่านสัญลักษณ์สากลได้ เช่น เครื่องหมายมหัพภาค (.) อ่านว่า จุด หรือ ดอท เครื่องหมายบวก (+) อ่านว่า บวก หรือ พลัส เป็นต้น 

• ไม่อนุญาตให้แปลงเครื่องหมายการค้าที่เป็นรูปภาพให้เป็นชื่อหรือคำอ่านด้วยตนเอง

• กิจกรรมและโครงการ หมายรวมถึง กิจกรรมทุกประเภท (การจัดงาน บริการ แพลตฟอร์ม หรืออื่น ๆ) ที่จัดขึ้นโดยองค์กร และโครงการภายใต้สังกัดขององค์กรโดยโครงการต้องมีวัตถุประสงค์ที่ชัดเจน และมี กำหนดเวลาเริ่มต้นและสิ้นสุด หากมีการขยายระยะเวลากิจกรรมหรือโครงการในภายหลังสามารถแจ้ง ข้อมูลเพิ่มเติมให้แก่นายทะเบียนได้

• การตั้งชื่อโดเมนตามชื่อกิจกรรม หรือโครงการต้องมีเอกสารหลักฐานแสดงถึงการมีอยู่จริงของกิจกรรม หรือโครงการ

• ชื่อโดเมนที่ขอจดทะเบียนจะต้องเป็นชื่อเต็ม ชื่อย่อ หรือส่วนหนึ่งส่วนใดของชื่อกิจกรรมหรือโครงการ โดยต้องสามารถสื่อถึงกิจกรรมหรือโครงการนั้นได้

• ชื่อโดเมนอื่น ๆ หมายถึง ชื่อที่ไม่อยู่ในหลักเกณฑ์ข้อ 6.3 - 6.4 

• การตั้งชื่อโดเมนชื่ออื่น ๆ ได้รับยกเว้นเงื่อนไขเอกสารหลักฐานสิทธิในการใช้ชื่อ ชื่อโดเมนที่ขอจดทะเบียน สามารถเป็นชื่อใดก็ได้ โดยที่ต้องไม่ละเมิดสิทธิของผู้อื่นและไม่ขัดกับนโยบายการจดทะเบียนชื่อโดเมน

1. ข้อมูลจำเป็นสำหรับสมัครสมาชิกระบบจัดการชื่อโดเมน

   • อีเมล

   • ชื่อ-นามสกุล 

   • ชื่อหน่วยงาน (ถ้ามี)

   • ข้อมูลที่อยู่ 

   • หมายเลขโทรศัพท์

2. ข้อมูลจำเป็นสำหรับคำขอจดทะเบียน 

   • ชื่อโดเมน

     • ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์การตั้งชื่อโดเมน

     • ต้องเลือกหมวดหมู่โดเมนอ้างอิงตามผู้มีสิทธิถือครองชื่อโดเมน

   • ชื่อผู้ถือครองชื่อโดเมน (Domain Holder)

     • ผู้มีสิทธิถือครองชื่อโดเมน

       • กรณีจดทะเบียนชื่อโดเมนองค์กรและเครื่องหมายการค้า ผู้ถือครองฯ ต้องเป็นองค์กร หรือเจ้าของเครื่องหมายการค้าตามลำดับ

       • กรณีจดทะเบียนชื่อโดเมนโครงการ/กิจกรรม  ผู้ถือครองฯ ต้องเป็นองค์กร หรือหน่วยงาน ต้นสังกัด 

       • กรณีจดทะเบียนชื่อโดเมนหมวดหมู่ .in.th  ไม่จำกัดประเภทผู้ถือครองชื่อโดเมน 

     • ข้อมูลจำเป็นของผู้ถือครองชื่อโดเมน ประกอบด้วย เลขประจำตัวผู้เสียภาษี (ถ้ามี) ที่ตั้งหรือที่อยู่ใน ประเทศไทย อีเมล และหมายเลขโทรศัพท์

   • ข้อมูลผู้ติดต่อด้านต่าง ๆ

     • ข้อมูลผู้ดูแลชื่อโดเมน

     • ข้อมูลผู้ดูแลทางเทคนิค ประกอบด้วย ชื่อ-สกุล อีเมล และหมายเลขโทรศัพท์

     • ข้อมูลผู้ดูแลทางการเงิน  ประกอบด้วย 

       • ชื่อ-สกุล อีเมล และหมายเลขโทรศัพท์ ของผู้ติดต่อด้านการเงิน

       • ข้อมูลสำหรับออกใบเสร็จ/ใบกำกับภาษี

   • ระยะเวลาจดทะเบียน 1-10 ปี

   • ข้อมูลเนมเซิร์ฟเวอร์ที่ไม่ซ้ำกันอย่างน้อย 2 ชื่อ

3. เอกสารหลักฐานที่ต้องใช้ในการจดทะเบียนชื่อโดเมน

   • รูปแบบของเอกสารหลักฐาน ประกอบด้วย

     • รูปแบบข้อมูล เช่น เลขทะเบียนนิติบุคคล หรือ เลขประจำตัวผู้เสียภาษี เป็นต้น 

     • รูปแบบเอกสารอิเล็กทรอนิกส์

   • วิธีนำส่งเอกสารหลักฐาน 

     • กรอกข้อมูลในแบบฟอร์มคำขอออนไลน์ผ่านทางระบบจดทะเบียนและจัดการชื่อโดเมน 

     • อัพโหลดไฟล์เอกสารอิเล็กทรอนิกส์

   • เอกสารหลักฐานใช้สำหรับ 2 วัตถุประสงค์ 

     • วัตถุประสงค์ที่ 1 เพื่อแสดงสิทธิในชื่อโดเมน ประกอบด้วย หลักฐานอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังต่อไปนี้

       • สำเนาหนังสือรับรองบริษัท

       • เลขทะเบียนนิติบุคคล หรือ เลขประจำตัวผู้เสียภาษี 

       • สำเนาทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภ.พ. 20)

       • สำเนา พ.ร.บ. /หนังสือ/ใบอนุญาตจัดตั้งหน่วยงาน

       • หนังสือราชการแจ้งรับรองการจดทะเบียนชื่อโดเมน ออกโดยผู้มีอำนาจของหน่วยงาน 

       • จดหมายธุรกิจแจ้งรับรองการจดทะเบียนชื่อโดเมน ออกโดยผู้มีอำนาจของหน่วยงาน

       • หนังสือออกโดยสถาบันการศึกษารับรองการจดทะเบียนชื่อโดเมน ออกโดยผู้มีอำนาจของสถาบันการศึกษา 

     • วัตถุประสงค์ที่ 2 เพื่อการพิสูจน์/ยืนยันตัวตน สำหรับผู้ถือครองฯ ประเภทบุคคลธรรมดา โดยมีระดับการพิสูจน์/ยืนยันตัวตน  ดังนี้ 

       • ความน่าเชื่อถือระดับสูง: การพิสูจน์ตัวตนทางดิจิทัล เช่น ThaiD, NDID เป็นต้น การจดทะเบียนโดเมนและยืนยันตัวตนทางดิจิทัลผ่าน NDID

       • ความน่าเชื่อถือระดับต่ำ: การพิสูจน์ด้วยบัตรประจำตัวประชาชน (ใช้หน้าบัตรที่มีเลขที่บัตรประชาชนเท่านั้น) หรือ

         • สำเนาประจำตัวข้าราชการ พนักงานองค์การของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ 

         • สำเนาใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว

         • สำเนาหนังสือเดินทาง หรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทาง หรือ 

         • สำเนาเอกสารอื่นที่ใช้แทนเอกสารดังกล่าวได้ตามกฎหมาย

   • ผู้เยาว์ (อายุไม่ครบ 20 ปีบริบูรณ์) ต้องแสดงเอกสารหลักฐานยินยอมให้ทำธุรกรรมจดทะเบียนชื่อโดเมน จากผู้ปกครองตามกฎหมาย

   • หลักเกณฑ์การลงลายมือชื่อ 

     • ผู้ถือครองฯ ต้องลงลายมือด้วยตนเอง

     • ผู้ถือครองฯ (หรือตัวแทน) สามารถนำส่งเอกสารที่ลงลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ด้วยอัพโหลดในระบบ  หรือส่งทางอีเมลไปยัง support@thnic.co.th โดยต้องส่งจากอีเมลของผู้ถือครองฯ หรืออีเมลของ ตัวแทนที่ลงทะเบียนในระบบแล้วเท่านั้น

4. การอ่านและยอมรับนโยบายและข้อตกลงและเงื่อนไขในการใช้บริการ

   • ผู้ถือครองฯ ต้องอ่านและยอมรับนโยบายและข้อตกลงและเงื่อนไขในการใช้บริการ ประกอบด้วย

     • นโยบายการจดทะเบียนชื่อโดเมน 

     • นโยบายความเป็นส่วนตัว

     • ข้อตกลงและเงื่อนไขในการใช้บริการ

   • สมาชิกที่เป็นตัวแทนผู้ถือครองฯ ต้องอ่านและยอมรับ นโยบายและข้อตกลงและเงื่อนไขในการใช้บริการ ในนามผู้ถือครองฯ

1. ขั้นตอนกรอกแบบฟอร์มคำขอสมัครจดทะเบียน โดยสมาชิก

   • เข้าสู่ระบบจัดการชื่อโดเมน 

   • กรอกข้อมูล อัพโหลดไฟล์เอกสารหลักฐาน และพิสูจน์/ยืนยันตัวตนผู้ถือครองฯ 

2. ขั้นตอนการพิจารณาคำขอขั้นต้น โดยนายทะเบียน

   • ตรวจสอบข้อมูลคุณสมบัติและประเภทของผู้ถือครองชื่อโดเมน

   • ตรวจสอบการตั้งชื่อโดเมน

   • ตรวจสอบข้อมูลอื่น ๆ

3. ขั้นตอนการแจ้งสถานะคำขอ โดยนายทะเบียน

   • แจ้งผลการตรวจสอบขั้นต้นทางอีเมล ภายใน 1 วัน  

   • กรณีคำขอ “ผ่าน” 

     • นายทะเบียนจะแจ้งผลไปยังอีเมลผู้ดูแลชื่อโดเมนและอีเมลผู้ติดต่อด้านการเงิน พร้อมกับรายละเอียดการชำระเงินภายในระยะเวลาที่กำหนด

     • นายทะเบียนจะตรวจสอบการชำระเงินเมื่อได้รับการแจ้งอัตโนมัติจากระบบรับชำระเงิน หรือเมื่อได้รับหลักฐานการชำระเงิน

     • หากนายทะเบียนพบการชำระค่าธรรมเนียมล่วงหน้าหรือตรวจสอบพบภายหลังว่ามีการชำระเงินครบถ้วนเรียบร้อยแล้ว นายทะเบียนจะ “อนุมัติ” คำขอทันที 

   • กรณีข้อมูลในคำขอขาดคุณสมบัติหรือไม่ครบถ้วน

     • นายทะเบียนจะแจ้งสาเหตุและแนวทางแก้ไขไปยังอีเมลผู้ดูแลชื่อโดเมน เพื่อเปลี่ยนแปลงแก้ไข หรือนำส่งข้อมูลให้ครบถ้วน ตัวอย่างเช่น 

       • ชื่อโดเมนขัดกับหลักเกณฑ์การตั้งชื่อโดเมน 

       • เอกสารหลักฐานแสดงสิทธิในชื่อโดเมนไม่ถูกต้อง หรือขาดหลักฐาน

       • หลักฐานการชำระเงินไม่ครบถ้วน หรือขาดหลักฐาน

   • กรณีคำขอ “ไม่ผ่าน” นายทะเบียนมีสิทธิปฏิเสธคำขอทันทีหรือตามกำหนดที่ได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้า

4. ขั้นตอนการชำระค่าธรรมเนียม

   • ผู้ถือครองฯ (หรือตัวแทน) สามารถชำระเงินล่วงหน้า หรือชำระเงินภายหลังได้รับแจ้งผลคำขอ “ผ่าน” ได้ ตามช่องทางรับชำระเงินของนายทะเบียน 

   • การตรวจสอบการชำระเงิน โดยนายทะเบียน

     • กรณีชำระผ่านช่องทางออนไลน์ (QR code/Credit card/Paypal) จะมีระบบแจ้งการรับชำระเงินให้ นายทะเบียนทราบอัตโนมัติ โดยไม่จำเป็นต้องรอหลักฐานการชำระเงินจากผู้ชำระเงิน   

     • กรณีชำระเงินผ่านช่องทางอื่น ผู้ถือครองฯ (หรือตัวแทน) ต้องนำส่งหลักฐานการชำระเงิน ผ่านช่องทางต่อไปนี้

       • อัพโหลดไฟล์หลักฐานในระบบจัดการชื่อโดเมน

       • นำส่งทางอีเมล support@thnic.co.th (ต้องแจ้งชื่อโดเมนหรือหมายเลขคำสั่ง ซื้อสำหรับอ้างอิง)

     • คำขอที่จดทะเบียนชื่อโดเมนสำเร็จ จะไม่สามารถขอคืนค่าเงินได้ทุกกรณี 

     • กรณีชำระเงินล่วงหน้าแล้วคำขอถูกปฏิเสธ หรือสมาชิกยกเลิกคำขอที่ยังไม่ทราบผล สามารถขอ คืนเงินหรือแจ้งเป็นเครดิตสำหรับบริการครั้งถัดไปได้ 

5. ขั้นตอนการจดทะเบียนชื่อโดเมนในระบบชื่อโดเมน โดยนายทะเบียน

   • หลังจากตรวจสอบการรับชำระเงินเรียบร้อยแล้ว นายทะเบียน (Registrar) จะส่งคำสั่งจดทะเบียนชื่อโดเมน ไปยังผู้ดูแลระบบทะเบียน (Registry) 

   • Registry จะจดทะเบียนชื่อโดเมนในระบบชื่อโดเมน (Domain Name System: DNS) และจะแจ้งผล ไปยังนายทะเบียนอัตโนมัติ และระบบของนายทะเบียนจะแจ้งผลทางอีเมลอัตโนมัติไปยังอีเมลของ ผู้ถือครองฯ และผู้ติดต่อทั้งหมด

• ชื่อโดเมนที่จดทะเบียนแล้วจะสามารถใช้งานได้ก็ต่อเมื่อ

  • • มีการเตรียมเนมเซิร์ฟเวอร์ ขั้นต่ำ 2 ชื่อที่ไม่ซ้ำกัน

    • ต้องติดตั้งข้อมูลของชื่อโดเมนให้เรียบร้อย เช่น 

      • NS record =  ns.domain.co.th 

      • A record = 100.00.0.01

    • ผู้ใช้บริการต้องบันทึกข้อมูลเนมเซิร์ฟเวอร์ในระบบ

• ชื่อโดเมนที่จดทะเบียนใหม่อายุไม่เกิน 5 วัน ได้รับสิทธิอนุโลมให้ลบและจดทะเบียนใหม่ด้วยระยะจดทะเบียน เท่าเดิมได้อีกครั้งภายใน 5 วันนับจากวันที่ชื่อโดเมนแรกถูกลบ โดยไม่มีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมเพื่ออำนวย ความสะดวกในกรณีจำเป็น เช่น สะกดคำผิด หรือ บันทึกข้อมูลสำคัญผิดพลาด เป็นต้น หากสมาชิกส่งคำขอ จดทะเบียนใหม่อีกครั้งล่าช้าเกินกว่า 5 วัน จะมีชำระค่าธรรมเนียมจดทะเบียนชื่อโดเมนตามปกติ

• ชื่อโดเมนมีอายุเกินกว่า 5 วันแล้ว จะไม่ได้รับสิทธิอนุโลม หากสมาชิกลบและจดทะเบียนใหม่จะมีค่าธรรมเนียม จดทะเบียนชื่อโดเมนตามปกติ

• ในกรณีที่มีคำสั่งลบชื่อโดเมนก่อนการสิ้นสุดวงจรชีวิตชื่อโดเมนตามปกติ จะมีผลให้ชื่อโดเมนเข้าสู่ช่วงกู้คืนชื่อโดเมน (Redemption Grace Period) ทันทีเป็นระยะเวลา 30 วัน ตามด้วยช่วงรอการถูกลบ (Pending Deletion Period) เป็นระยะเวลา 5 วัน